Tuesday, 7 February 2017

การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงระหว่างไทย-บาห์เรน


ด้านเศรษฐกิจ

ไทยและบาห์เรนร่วมจัดทำบันทึกความเข้าใจเรื่องความร่วมมือด้านความมั่นคงด้านอาหาร การค้าและการลงทุนสินค้าเกษตรและอาหารฮาลาล โดยรัฐบาลทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันที่จะจัดตั้งคลังสำรองอาหารและศูนย์กระจายสินค้าไทยในบาห์เรนขึ้น เพื่อใช้บาห์เรนเป็นฐานกระจายสินค้าไทยไปยังผู้บริโภคในอ่าวอาหรับตอนบน เช่น ซาอุดีอาระเบีย คูเวต และจอร์แดน ความตกลงว่าด้วยการหลีกเลี่ยงการจัดเก็บภาษีซ้อน การบันทึกความเข้าใจเรื่องการท่องเที่ยว บันทึกความเข้าใจเรื่องความร่วมมือและวัฒนธรรม และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข

สินค้าไทยที่มีศักยภาพในตลาดบาห์เรน

  1. อาหารและสินค้าเกษตร 
    เช่น ข้าว ไก่ น้ำตาล เนื่องจากบาห์เรนมีพื้นที่เป็นทะเลทรายแทบจะไม่มีผลิตผลด้านการเกษตร
    • ข้าว ประมาณ 60,200 ตันต่อปี (ต้องแย่งตลาดกับข้าวบาสมาติและข้าวหอมมะลิจากเวียดนาม)
    • ไก่สดและไก่แช่แข็ง(มีการบริโภคประมาณ 120,000 ตัวต่อวัน)
  2. เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็นและชิ้นส่วน เนื่องจากสภาพอากาศร้อนและไทยเรามีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่ามาก
  3. เสื้อผ้าสำเร็จรูป
  4. ทองแดง
  5. อัญมณีและเครื่องประดับ
  6. เฟอร์นิเจอร์
  7. การท่องเที่ยวและการบริการด้านสุขภาพ เนื่องจากชาวบาห์เรนรู้จักและชื่นชอบคนไทยและประเทศไทยเป็นอย่างมาก
    • ปี 2556 คนบาห์เรนไปเที่ยวประเทศไทยมากกว่า 30,000 คน และมีแนวโน้มเพิ่มมาก ขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว รวมทั้งคนต่างชาติในบาห์เรนก็นิยมไปเที่ยวประเทศไทย
    • การส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยควรร่วมมือกับบริษัททัวร์ท้องถิ่น เนื่องจากคนบาห์เรนยัง ไม่นิยมจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม หรือแพ็กเกจทัวร์ผ่านอินเตอร์เน็ตมากนัก
    • คนบาห์เรนนิยมไปรักษาพยาบาลที่ประเทศไทยมากขึ้น
  8. ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ เนื่องจากบาห์เรนมีอัตราส่วนรถยนต์ต่อประชากรสูงเป็นอันดับต้นๆของโลก (517 คัน ต่อประชากร 1000 คน)
    • อะไหล่ แบตเตอรี่ ยางรถยนต์
    • แฟรนไชส์ / สินค้าการดูแลรถยนต์ (คาร์แคร์)
  9. การประมูลโครงการก่อสร้างภาครัฐ
    • บาห์เรนมีแผนเร่งสร้างและปรับปรุงโครงสร้างสาธารณูปโภค โดยใช้เงินช่วยเหลือ 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐของ GCC เช่น โครงการที่พักอาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย การสร้างถนน สะพานและอุโมงค์
  10. เครื่องสำอาง 
    เนื่องจากคนบาห์เรนทั้งชายและหญิงมีนิสัยรักสวยรักงาม อย่างไรก็ดีต้องแข่งขันกับเครื่องสำอางแบรนด์เนมของตะวันตก
  11. ธุรกิจบริการ 
    เช่น ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ร้านตัดเสื้อ ช่างสีและช่างซ่อมรถยนต์ สปา และนวดแผนไทย
ทั้งนี้ สินค้าที่ไทยนำเข้าจากบาห์เรน ได้แก่ สินแร่โลหะ น้ำมันสำเร็จรูป ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เหล็กและเหล็กกล้า
สถิติการส่งออกสินค้าของไทย-บาห์เรน ภาพรวมของการส่งออกทั้งหมดของไทยสู่ตลาดโลก พบว่าปี 2556 บาห์เรนจัดอยู่อันดับที่ 68 คิดเป็นมูลค่า 6,667 ล้านบาทซึ่งเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.1 แม้ว่าจะเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อย แต่การเปิดตลาดประเทศบาห์เรนจะเป็นประตูการค้าด่านแรกที่จะต่อยอดเข้าไปในประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจัดเป็นคู่ค้าลำดับที่ 21 ของไทย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.3 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คู่ค้าลำดับที่ 20 ของไทย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.3 และกาตาร์ คู่ค้าลำดับที่ 55 ของไทย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.17




ความตกลงที่ลงนามแล้ว และมีผลใช้บังคับแล้ว

  1. ความตกลงว่าด้วยการยกเว้นภาษีซ้อน
  2. ความตกลงเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน
  3. ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และวิชาการ
  4. ความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศ ฉบับ ปี 2523
  5. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือเชิงพาณิชย์
  6. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งกองเงินลงทุนในประเทศไทย
  7. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
  8. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์กลางการค้าและการกระจายสินค้าในบาห์เรน
  9. ความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย-บาห์เรน
  10. ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมบาห์เรน
  11. ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนไทยและบาห์เรน
  12. ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการค้า
  13. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเพิ่มพูนความร่วมมือด้านน้ำมันและก๊าซ
  14. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข
  15. ความตกลงจัดตั้งสภาธุรกิจร่วมไทย-บาห์เรน
  16. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าไทยและคลังสำรองอาหารในบาห์เรน
  17. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านวัฒนธรรม
  18. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว

ความตกลงที่อยู่ระหว่างการเจรจา

  1. ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษา
  2. ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตร
  3. พิธีสารความร่วมมือระหว่างสภาผู้แทนราษฎร (Protocol on Cooperation)
  4. พิธีสารแก้ไขความตกลงว่าด้วยการยกเว้นภาษีซ้อน

http://www.thaibizbahrain.com/bh/about/relations.php

กิจกรรม สอท. : นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ หารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน

นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ หารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน

นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ  หารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ผลักดันกลไกความร่วมมือระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรม
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ  หารือข้อราชการกับ เจ้าชายคอลิฟะห์ บิน ซัลมาน อัล คอลิฟะห์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ในโอกาสเสด็จเยือนไทยในฐานะแขกของรัฐบาล ในระหว่างการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 2 ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีบาห์เรนตอบรับคำเชิญเสด็จฯ เยือนประเทศไทย พร้อมย้ำความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน โดยทั้งสองประเทศจะครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตในปีหน้า ด้านนายกรัฐมนตรีบาห์เรนทรงยินดีที่ได้มาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง ซึ่งการจัดประชุมแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนานาประเทศที่มีต่อประเทศไทย นอกจากนี้ทรงชื่นชมแนวทางการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรี และทรงยินดีให้การสนับสนุนบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่าย ยังมุ่งผลักดันกลไกความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งนายกรัฐมนตรีบาห์เรนทรงยินดีในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมทวิภาคีระดับสูง ระหว่างไทยกับบาห์เรน ครั้งที่ 3 ในปีหน้า ทั้งยังเห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ด้วยการส่งเสริมการติดต่อระหว่างภาคเอกชนเพื่อเพิ่มมูลค่าทางการค้า ซึ่งไทยกำลังดำเนินการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าไทยในบาห์เรน รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ไทยมีศักยภาพ
นายกรัฐมนตรี แสดงความซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณ ที่นายกรัฐมนตรีบาห์เรนประทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์แก่นักศึกษาไทย รวมถึงการดูแลชาวไทยในบาห์เรน ทั้งยังแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีบาห์เรน ที่ทรงให้การสนับสนุนไทยใน OIC มาโดยตลอด

ที่มาของข่าว : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

http://www.thaiembassy.org/manama/th/activities/2251/70983-%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9D%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AF-%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3.html
http://www.mfa.go.th/main/th/media-center/28/30037-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%99-%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89.html

ข่าวเด่น : การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย-บาห์เรน ครั้งที่ ๒

เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๕  นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธานร่วมกับ เชค คาหลิด บิน อาเหม็ด บิน โมฮัมเหม็ด อัล คอลิฟะห์ (Shaikh Khalid bin Ahmed bin Mohamed Al Khalifa) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศบาห์เรน               ในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย – บาห์เรน ครั้งที่ ๒ ที่กระทรวงการต่างประเทศ

การประชุมครั้งนี้เน้นการติดตามผลการเยือนบาห์เรนของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ ๑๓ - ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ซึ่งได้มีการลงนามความตกลง ๓ ฉบับ คือ (๑) ด้านความมั่นคงทางอาหาร (๒) ด้านวัฒนธรรม และ (๓) ด้านการท่องเที่ยว

ไทยได้เสนอให้ฝ่ายบาห์เรนซื้อสินค้าที่ไทยมีศักยภาพและเป็นที่ต้องการของบาห์เรน อาทิ ข้าว น้ำตาล ไก่แช่แข็ง อาหารกระป๋องและวัสดุก่อสร้าง นอกจากนี้  ที่ประชุมได้หารือถึงด้านความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดประชุม Joint Steering Committee ด้านความมั่นคงอาหาร เพื่อให้เกิดความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมต่อไป อีกทั้ง ไทยได้เสนอให้มีการตั้งไซโล (silo) ในประเทศไทยเพื่อเป็นคลังอาหารสำหรับบาห์เรน  รวมทั้งเสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าไทยที่บาห์เรนด้วย

สำหรับความร่วมมือด้านการเงินการธนาคาร ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะมีความร่วมมือด้านการฝึกอบรม เพื่อเสริมศักยภาพของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ ฝ่ายบาห์เรนยินดีให้ความร่วมมือในการส่งเสริมการลงทุนในตลาดทุนของไทย โดยจะจัดคณะนักลงทุนเดินทางมายังประเทศไทย

สำหรับความร่วมมือด้านการเกษตรและการศึกษา บาห์เรนประสงค์เรียนรู้ประสบการณ์ของไทยเพื่อช่วยเสริมการพัฒนาประเทศและลดการพึ่งพารายได้จากพลังงาน ซึ่งไทยยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างประเทศ อาทิ สถานการณ์ในตะวันออกกลาง ความร่วมมือในกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue – ACD) และองค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ